ฉลากสินค้าที่ตอบสนองการใช้งานในยุคปัจจุบัน
ประเภทและองค์ประกอบของตัวฉลาก
ผิวหน้า
เป็นที่ทราบกันดีว่าผิวหน้าฉลากสินค้า คือส่วนประกอบภายนอกที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นตัวสื่อถึงภาพลักษณ์และผิวสัมผัสของตัวฉลาก ดังนั้นการเลือกผิวหน้าฉลาก อีกทั้งการออกแบบให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์เอง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่มีอิทธิพลต่อตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์ อย่างไรก็ตามขั้นตอนในการเลือกผิวหน้าฉลากนั้นค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากต้องพิจารณารายละเอียดปลีกย่อยมากมาย ทั้งในเรื่อง สี, ประเภทของวัสดุ, ความสามารถในการพิมพ์, ลักษณะของพื้นผิว, ความมันวาว, ความหนา และน้ำหนัก
แสดงรายละเอียด
ผิวหน้าแบบกระดาษ

เมื่อพูดถึงฉลากสินค้า กระดาษ คือ วัสดุชนิดหนึ่งทีได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนานว่าทนทานและนำไปใช้งานได้หลากหลายประเภท ในแง่ของตัวเลือก ยังมีตัวเลือกอีกมากมายขึ้นกับว่าเราจะเลือกความหนา, สี และความมันวาวแบบใดมาใช้งาน 

โดยทั่วไปกระดาษมีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดี และสามารถใช้งานกับแอพพลิเคชั่นได้หลากหลาย เช่น งานโฆษณา, งานสติกเกอร์ส่งเสริมการขาย, งานแถบบาร์โค้ด, ฉลากแสดงวันหมดอายุ และตั๋ว เป็นต้น  แม้ผิวหน้าฉลากแบบกระดาษจะสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากลาย แต่มีสิ่งต้องพึงระวังคือกระดาษจะไม่เหมาะกับงานที่ต้องสัมผัสกับน้ำ สารเคมี และการใช้งานที่ต้องทนทานต่อการฉีกขาดสูง

 

ผิวหน้าแบบฟิล์ม

ผิวหน้าฉลากแบบฟิล์มเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานที่ต้องทนต่อแรงยืดหยุ่นสูง มีความแข็งแรงทางโครงสร้าง รวมถึงทนต่อน้ำและความร้อน โดยฟิล์มมีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งแบบใส แบบขาวมัน แบบขาวด้าน แบบสีเงินทั้งแบบเงาและแบบด้าน โดยมีคำอธิบายวัสดุแต่ละประเภท ดังนี้

ผิวหน้าโพลีไวนิล คลอไรด์ (PVC)

เพราะ PVC เป็นวัสดุที่ทนทาน สามารถทนต่อแดดและฝนได้เป็นระยะเวลานาน ทำให้ PVC เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับทำการตลาดและส่งเสริมการขาย โดยปกติแล้วมักจะเป็นตัวที่ตั้งโชว์หน้าร้าน และติดบนบานประตูตู้เย็น

ผิวหน้าโพลีพรอพิลีน (PP)

PP เป็นวัสดุที่ให้ความทนทานสูงมากกว่าวัสดุทั่วไป อีกทั้งยังมีคุณสมบัติของพื้นผิวที่เรียบเป็นพิเศษ ด้วยคุณลักษณะนี้ของ PP ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ดูพรีเมี่ยมขึ้น และ PP เองยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภค ระดับไฮเอนด์

ผิวหน้าพอลิเอทิลีน เทเรฟทาเลต (PET)

ด้วยคุณลักษณะทนความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม PET จึงเป็นวัสดุที่เหมาะกับพื้นผิวที่ต้องสัมผัสกับอุณหภูมิสูง เช่น บนเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือจอสัมผัสประเภทต่างๆ  

ผิวหน้าโพลีเอทิลีน (PE)

PE ถือเป็นวัสดุที่ดีเยี่ยมเนื่องจากมีความแข็งแรงทนทาน โค้งงอให้ตัวได้ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทนทานต่อสารเคมี มันจึงเหมาะสมอย่างมากต่อการใช้งานกับของใช้ภายในบ้านและผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคลที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ผิวหน้าโพลิโอเลฟินส์ (PO)

สำหรับงานบางประเภท ผิวหน้าแบบ PP อาจแข็งไม่ให้ตัวเกินไป ในขณะที่ผิวหน้าแบบ PE ก็อ่อนนุ่มเกินกว่าจะใช้งานได้ ทางเลือกที่รวมคุณสมบัติเด่นของวัสดุทั้งสองเข้าด้วยกัน จึงได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นผิวหน้าแบบ PO ที่ถูกออกแบบให้สามารถประยุกต์ใช้ได้ ทั้งในสภาพแวดล้อมเปียกและแห้ง ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งาน ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

ซ่อนรายละเอียด
กาว
ฉลากแบบมีกาวในตัว เป็นฉลากที่ทำการเคลือบชั้นกาวไว้ที่แผ่นรองหลัง แม้ชั้นกาวนี้จะบางมากและแทบมองไม่เห็น แต่หากเลือกใช้กาวได้เหมาะสม จะทำให้ประสิทธิภาพในการยึดเกาะเพิ่มขึ้น โดยตัวกาวเองนั้นมีหลากหลายประเภท เพื่อรองรับการใช้งานและความต้องการแตกต่างกันไป
แสดงรายละเอียด
กาวน้ำ (Water-based adhesive)

กาวประเภทนี้เป็นโพลีเมอร์สังเคราะห์ที่ถูกผสมรวมอยู่กับน้ำ หลังจากผ่านกระบวนการเคลือบด้วยกาวน้ำแล้ว มันจะถูกนำไปอบเพื่อทำให้แห้งและคงรูปเป็นชั้นฟิล์มบางๆ นอกจากคุณสมบัติทั่วไปแล้ว ข้อดีของกาวน้ำคือแทบจะไม่มีกลิ่น และมีระดับสารระเหยในปริมาณที่ต่ำ ทำให้ได้รับการยอมรับว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค

จุดเด่นของเทคโนโลยีกาวน้ำนี้ คือ ความสารพัดประโยชน์ของมัน เนื่องจากสามารถนำไปยึดติดฉลากได้หลากรูปแบบอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉลากทั่วไป หรือฉลากที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อการใช้งานเฉพาะเจาะจง เช่น ฉลากที่ต้องสัมผัสกับอาหารโดยตรง หรือฉลากทางการแพทย์ และอีกมากมาย

 

กาวหลอมร้อน (Hotmelt adhesive)

กาวประเภทนี้เป็นกาวที่มีคุณลักษณะเป็นของแข็ง โดยเมื่อต้องการใช้งาน จะต้องนำไปผ่านความร้อน เพื่อละลายให้มันกลายเป็นกาวเหลว ในกระบวนการเคลือบกาวชนิดนี้จะถูกนำไปหลอมละลายและอัดรีดลงบนพื้นผิวที่จะเคลือบ เมื่อเย็นตัวลงกาวจะแข็งตัวเป็นชั้นฟิล์มบางๆ ข้อดีของกาวประเภทนี้ คือมีแรงยึดสูง สามารถเกาะติดติดพื้นผิวไม่เรียบหรือขรุขระได้เป็นอย่างดี เช่น ฉลากสินค้าสำหรับติดยางรถยนต์

กาวหลอมร้อนด้วย UV (UV Hotmelt adhesive)

UV Hotmelt มีความคล้ายคลึงกับกาวหลอมร้อนแบบธรรมดาแทบทุกอย่าง ต่างเพียงขั้นสุดท้ายที่ใช้แสง UV ในการทำให้กาวเป็นชั้นฟิล์มแทน ซึ่งกระบวนการพิเศษนี้ช่วยเสริมคุณสมบัติหลายประการ ตั้งแต่ความแข็งแกร่งในการยึดเกาะที่เหนือกว่า ความทนทานที่มากขึ้นต่อสภาวะแวดล้อมที่มีความแตก ต่างรวมไปถึงอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำมากๆ มันจึงถูกนำใช้กับอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่ธรรมดา เช่น อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง เป็นต้น

ซ่อนรายละเอียด
แผ่นรองหลัง

แผ่นรองหลังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยรักษาประสิทธิภาพในการยึดเกาะของชั้นกาว ให้คงประสิทธิภาพดีที่สุดระหว่างเก็บรักษาและยังไม่ถูกใช้งาน แผ่นรองหลังยังทำหน้าที่เป็นตัวยึดเกาะผิวหน้าฉลาก เมื่อมันไหลผ่านเข้าสู่กระบวนการทำไดคัท เหตุผลที่ตัวแผ่นรองหลังมีการเคลือบซิลิโคน ก็เพื่อให้สามารถลอกออกจากผิวหน้าฉลากได้ง่าย และเช่นเดียวกับผิวหน้าฉลาก แผ่นรองหลังมีหลายวัสดุให้เลือกใช้งาน

แสดงรายละเอียด
แผ่นรองหลังเนื้อกระดาษ
กระดาษกลาสซีน

เนื้อกระดาษมีความแน่น ผิวสัมผัสเรียบเนียนและมันวาว โดยเหมาะสำหรับฉลากที่ขึ้นงานพิมพ์ในรูปแบบม้วน

กระดาษคราฟ

ด้วยตัวเนื้อกระดาษคราฟที่มีผิวสัมผัสค่อนข้างหยาบและหนา มันจึงมีความทนทาน อีกทั้งยังเหมาะกับฉลากสินค้าที่พิมพ์ในรูปแบบแผ่น

แผ่นรองหลังเนื้อฟิล์ม PET
ซ่อนรายละเอียด
เส้นทางของฉลากสินค้า
แสดงรายละเอียด
ขั้นตอนที่ 1: การผลิตฉลาก

ในการผลิตฉลาก ชิ้นส่วนต่างๆ จะผ่านการจัดเตรียมและผลิตขึ้นที่โรงงานของเรา ซึ่งทุกชิ้นส่วนได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย มีประสิทธิภาพ และเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2: การพิมพ์ลวดลายบนฉลาก

เมื่อฉลากถูกผลิตออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะถูกส่งไปยังโรงพิมพ์ต่างๆ เพื่อพิมพ์ลวดลาย ลงบนผิวหน้าฉลากตามการออกแบบของผู้ใช้งาน ทุกวันนี้กระบวนการพิมพ์นับเป็นอีกขั้นตอนที่ซับซ้อน เนื่องจากเทคนิคและวิธีการพิมพ์มีมากมายหลากหลายในท้องตลาด 

ดังนั้นการระบุความต้องการได้อย่างชัดเจนคือสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าฉลากที่เลือกนั้นเหมาะสมกับการใช้งานที่สุด ทั้งในด้านความยืดหยุ่น วัสดุ รูปร่าง ความหนา รวมถึงคุณสมบัติพื้นผิว 

 

ขั้นตอนที่ 3: การไดคัทดวงฉลาก

ขั้นตอนถัดไปเป็นการไคดัทฉลากที่ถูกพิมพ์แล้วให้มีขนาดและรูปร่างตามที่ออกแบบไว้ ซึ่งโดยทั่วไปจะคำนึงถึงลักษณะและความจำเป็นของผลิตภัณฑ์ที่จะนำตัวฉลากไปติด การไดคัทมีหลายรูปแบบ เช่น ไดคัทหน้า-หลัง และไดคัทเจาะฉลุ ขึ้นอยู่กับความต้องการและความจำเป็นในการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 4: การติดฉลากบนผลิตภัณฑ์

ในขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการ ฉลากจะถูกนำไปติดบนผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ เมื่อเสร็จสมบูรณ์ สินค้าพร้อมฉลากจะถูกจัดส่งไปตามห้างร้านและชั้นสินค้าตามที่ต่างๆ จนสุดท้ายปลายทางไปที่ผู้บริโภค

ซ่อนรายละเอียด
ผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ
บทบาทของเราในเชิงธุรกิจ

ฉลากสินค้าในปัจจุบันเป็นสิ่งสำคัญและมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจมากกว่าที่คิด เนื่องจากฉลากสินค้าเป็นสิ่งแรกที่เห็นบนผลิตภัณฑ์ ดังนั้นฉลากของสินค้าจะถูกทำให้เกิดความโดดเด่นและต้องตา นอกจากนี้ฉลากสินค้ายังบ่งบอกสิ่งต่างๆที่ทางเจ้าของแบรนด์สินค้าจะส่งต่อไปยังผู้บริโภค เช่น ความเป็นเอกลักษณ์ ภาพลักษณ์ของตัวผลิตภํณฑ์ ตลอดจนความเอาใจใส่และ วิสัยทัศน์ของแบรนด์สินค้า 

เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆที่แตกต่าง นอกจากประสบการณ์ที่สั่งสมมาเกี่ยวกับฉลากที่มีกาวในตัวและการฝึกทักษะอย่างต่อเนื่อง เรามีความมั่นใจในการสร้างสรรค์และตอบสนองความต้องการของลูกค้าโดยมีทีมงานที่พร้อมด้วยความสามารถและยินดีให้คำปรึกษาตลอดเวลาที่คุณต้องการ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มและทิศทางความต้องการต่างๆที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและตลอดเวลา ทำให้การแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น นับเป็นการท้าทายในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน

 

 
ฉลากสินค้าที่ใช่สำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ

ฉลากสินค้าที่ดีไม่เพียงสร้างมูลค่าให้กับตัวผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยสื่อความหมายที่ต้องการออกไปอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ความเข้าใจเกี่ยวกับฉลากสินค้าแต่ละประเภทจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อให้การตัดสินใจนั้นนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี เหมาะกับการใช้งาน และมีการออกแบบที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด